เนื้อเรื่อง death on the nile

รีวิว : Death on the Nile แม้เครื่องจะติดช้าไปนิด แต่ก็สนุกกว่าไขคดีฆาตกรรมที่เก่งกาจสับขาหลอกผู้ชม


Death on the Nileกลับมาขึ้นลงจอใหญ่ในโรงอีกครั้งสำหรับโรเบริด ดาวนีย์จูเนียร์ นักสืบในนิยายของ death on the nile เรื่องย่อ เรื่องย่อ อกาธา คริสตี้ทีเหมือนกับคลายเชอร์ล็อก โฮมส์  เจ้าแม่หนังสือฆาตกรรมระดับตำนาน หลังจาก Emma Mackey Hercule Poirot กลายเป็นหนังที่ประสบความสำเร็จเมื่อ 5 ปีก่อน ทำให้ค่ายหนังอนุมัติหยิบเอาหนังสือเล่มต่อมาของอกาธา อย่าง Death on the Nile (ฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์) มาขึ้นจอใหญ่ทันที โดยหนังได้ เคนเนธ บรานาห์ กลับมาควบหน้าที่ทั้งกำกับภาพยนตร์และรับบทเป็น ปัวโรต์ อีกครั้ง ซึ่งตัวหนังเองถ่ายทำไปเกือบ 3 ปีแล้ว แต่เพราะโควิด-19 ทำให้ถูกเลื่อนฉายมาหลายต่อหลายรอบ บวกกับคดีฉาวของ อาร์มี่ แฮมเมอร์ หนึ่งในหนังแสดงที่เกือบทำให้หนังไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเสียแล้ว แต่ในที่สุด Death on the Nile ก็พร้อมเข้าฉายในสัปดาห์ก่อนวาเลนไทน์ ซึ่งบังเอิญสุดๆที่ รางวัลออสการ์เพิ่งประกาศผู้เข้าชิง และ ผลงานกำกับที่ออกฉายก่อนหน้านี้ของ บรานาห์ (แต่ถ่ายทำทีหลัง) อย่าง Belfast ก็ได้ชิงในสาขาหนังยอดเยี่ยม รวมถึงส่งให้ บรานาห์ ได้ชิงในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมอีกครั้ง กลายเป็นสัปดาห์นี้ เขามีทั้งหนังใหม่เข้าโรง และหนังก่อนหน้าได้ชิงรางวัลใหญ่


อีกหนึ่งใจความของความสำเร็จ Death on the Nile  สนุกไหมคืองานโปรโมทหนังที่สามารถปิลามิดสามเหลี่ยมเมอมิดาและลำแม่น้ำไนล์ออกมาได้สวยและตื่นตามากๆ หนังถ่ายทอดความยิ่งใหญ่แต่อ้างว้างได้อย่างยอดเยี่ยม เสริมบรรยากาศให้คดีฆาตกรรมครั้งนี้ดูชวนขนลุกมากยิ่งขึ้น บวกกับการแสดงที่เล่นดีกันแบบยกทีมอีกครั้ง death on the nile สปอย ไม่ต่างจาก Murder on the Orient Express แต่คราวนี้เป็น กัล กาด็อต ที่หนังดึงเสน่ห์ของเธอออกมาใช้งานได้อย่างเต็มที่มากๆ ทำให้เธอยิ่งเป็นศูนย์กลางของเส้นเรื่องที่น่าสนใจและน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น แรงขับเคลื่อนของหลายตัวละครดูสมจริงมากขึ้น เพราะเสน่ห์ของกัลในบทนี้จริงๆ โดยรวม ใครที่เป็นแฟนหนังแนวฆาตกรรม ไขคดีใครใครไม่ดูถือว่าพลาดและดูจบก็ยังอยากให้ บรานาห์ได้มีโอกาสสร้างภาคต่อๆไป (ก็หนังสือ อกาธา ที่มีปัวโรห์ มีตั้ง 5 เล่มเชียวนะ)อีกแง่มุมที่ Death on the Nile ทำได้ดีกว่า Murder on the Orient Express คือการที่พาผู้ชมไปสำรวจตัวละคร แอร์กูว์ ปัวโรต์ มากยิ่งขึ้น ในฐานะที่เขาเป็นตัวละครหลักในหนังชุดนี้ หนังภาคแรกแนะนำเขาอย่างผิวเผิน ให้รู้จักบุคลิกภาพรวมแล้วนำไปสู่การคลี่คลายคดีแบบทันที แต่ภาคนี้จะใช้เวลาลงลึกในแง่มุมอื่นๆของเขามากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้เราจะได้เห็นปัวโรห์เป็นนักสืบที่เย่อหยิ่ง death on the nile ตอนจบ ใช้ความฉลาดและช่างสังเกตในการข่มบุคคลที่เป็นผู้ต้องสงสัยเพื่อไขความจริง แต่ใน Death on the Nile ผู้ชมจะได้เห็นด้านอ ของเขามากขึ้น เห็นเขาในฐานะคนธรรมดามากขึ้น ต่อให้เขาจะเก่งกาจขนาดไหน เขาก็คือคนที่มีบาดแผลทั้งบนร่างกายและDeath on the Nileจิตใจ อะไรที่ส่งให้ปัวโรห์กลายเป็นคนเช่นทุกวันนี้

ขอบคุณเครดิตจาก  https://movie.thaiware.com/2652-Death-on-the-Nile.html?fb=4974